...

เคล็ดลับ

ทำความรู้จักกับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของไทย (EEC)

ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคตะวันออกเพื่อเป็นพื้นที่ส่งเสริมกลุ่มธุรกิจเป้าหมายที่ผลักดันเศรษฐกิจในประเทศไทยและดึงดูดการลงทุนและการค้าในระดับนานาชาติ บทความนี้เลยอยากแชร์เกร็ดความรู้สำคัญที่นักลงทุนและผู้ประกอบการควรรู้เกี่ยวกับ EEC นโยบายและมาตรการส่งเสริมทางภาคธุรกิจของ EEC และวิธีในการเข้าร่วมโครงการนี้ 1. ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) คืออะไร ? คือโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษใน 3 จังหวัดในภาคตะวันออกของประเทศไทยได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง โดย EEC เป็น แผนยุทธศาสตร์ ภายใต้ ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการพัฒนาเชิงพื้นที่ ยกระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐานใน 3 จังหวัดเพื่อเตรียมความพร้อมในการลงทุนจากภายในประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งจัดตั้งแผนดำเนินงานโดยรัฐบาลไทย ในปี 2560 และเริ่มดำเนินนโยบายในปี 2562 2. EEC มีประโยชน์อย่างไรต่อผู้ประกอบการและนักลงทุน? สิทธิประโยชน์และมาตรการลดหย่อนทางภาษี: รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนผ่าน สิทธิประโยชน์ทางภาษีในหลากหลายรูปแบบ เช่น การละเว้นภาษีสูงถึง 15 ปี และสิทธิประโยชน์เพื่อการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจเช่น สิทธิในการถือครองที่ดิน สิทธิถือครองสัญญาเช่าระยะยาว 15 ปี และการเข้าถึงกองทุนเพื่อการลงทุน รวมไปถึงการเข้าถึงทรัพยากรบุคคลและงานวิจัยและการพัฒนาต่างๆ ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งสู่ตลาดโลก:โครงการ EEC ได้ทำการพัฒนาระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ภายในจังหวัดที่อยู่ในโครงการ เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อมและมีประสิทธิภาพที่สามารถรองรับการลงทุนและอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ...

5 ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่ควรรู้เกี่ยวกับเขตการค้าเสรีในประเทศไทย

เขตการค้าเสรี (Free Trade Zone (FTZ)) ในประเทศไทยนั้นจัดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเพื่อเป้าหมายในการทำการค้า โดยมีการลดภาษีศุลกากรระหว่างกันภายในสินค้าเฉพาะกลุ่ม ที่ทำข้อตกลงให้เหลือน้อยที่สุดหรือเป็น 0% โดยในประเทศไทยนั้นเขตการค้าเสรีจัดตั้งขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนและการค้าในระดับนานาชาติ ผ่านการอำนวยความสะดวกในการจัดการและการขนส่ง โดยประเทศไทยนั้นจัดเป็นเป้าหมายทางการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการในระดับนานาชาติ ที่กำลังทำธุรกิจภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บทความนี้เลยอยากนำเสนอ 5 ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการควรรู้เกี่ยวกับเขต FTZ ในไทยมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 1. สิทธิประโยชน์ทางด้านศุลกากรและภาษี สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในเขต FTZ จะได้รับประโยชน์ทางภาษี ดังนี้:           การยกเว้นภาษีอากร: หากผู้ประกอบการมีการดำเนินธุรกิจภายในเขต FTZ ทางผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นการเสียภาษีอากร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการนำเข้าสินค้าหรือวัสดุต่างๆ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมาก การผ่อนปรนภาษีเงินได้: ผู้ประกอบการในเขตการค้า FTZ สามารถผ่อนปรนการชำระ ภาษีเงินได้จนกว่าสินค้าจะออกจากเขต FTZ เพื่อการค้าในประเทศไทยหรือการส่งออกสู่ต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมกระแสเงินในการดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น 2. ข้อได้เปรียบทางการดำเนินงาน: ขนสินค้าส่งสะดวกและขั้นตอนทางเอกสารที่เรียบง่ายกว่า เขต FTZ นั้นได้ถูกออกแบบให้เหมาะกับการขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ ดังนั้นแล้วจึงมีโครงสร้างและระเบียบที่ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายสินค้าเข้าหรือออกประเทศได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างในกรณีสินค้านำเข้า เมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเอกสารอากร ถ้าหากทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่าสินค้าเหล่านี้จะถูกส่งไปยัง FTZ จะมีตรวจสอบที่รวดเร็วกว่าในการดำเนินเรื่อง ถ้าหากเทียบกับการตรวจสอบสินค้าที่จะต้องเข้าไปเก็บในพื้นที่เขตการค้าหรืออุตสาหกรรมทั่วไป ดังนั้นแล้วการจัดการและลำเลียงสินค้าในเขต FTZ จึงว่องไวกว่า และทำให้ธุรกิจสามารถทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น มีเวลาในการทำงานด้านอื่นๆ มากขึ้น 3. สนับสนุนการลงทุนต่างชาติ...

7 ข้อต้องรู้เกี่ยวกับการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4)

ถ้าหากว่าคุณคือผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มขยายกิจการ หรือการหาทำตั้งโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ สิ่งสำคัญที่จำเป็นที่ขาดไม่ได้เลยคือการทำเรื่องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) อันเป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินธุรกิจในระดับโรงงาน ซึง พ.ร.บ. โรงงานฉบับแก้ไขใหม่ ปี 2562 ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการขอใบอนุญาตให้มีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น สำรหับผู้ประกอบการในประเทศไทย โดยมีความง่ายทางด้านการขอและเตรียมเอกสารมากขึ้นสำหรับโรงงานขนาดเล็กเหมาะกับผู้ประกอบการหน้าใหม่ และโรงงานขนาดใหญ่ก็มีความสะดวกในการทำเรื่องขออนุญาตมากขึ้น บทความนี้เลยรวบรวม เกร็ดความรู้ 7 ข้อ ที่ควรรู้เกี่ยวกับ ร.ง.4 ให้กับทุกคนให้อ่านและเตรียมความพร้อมกัน 1. โรงงานคืออะไร? นิยามและความหมายของ “โรงงาน” ในประเทศไทย เริ่มต้นกันที่ การทำความเข้าใจนิยามของโรงงาน ในประเทศไทย โดยโรงงาน หมายถึง อาคารหรือสถานที่ สำหรับการผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ปรังปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือทำลาย อันเป็นการประกอบการในสถานที่นั้นๆ ซึ่งในประเทศไทยจะมีขีดจำกัดในการดำเนินงานเพื่อข้ายข่ายการเป็นโรงงานในประเทศไทยอยู่ โดยหากอ้างอิงตาม พ.ร.บ. โรงงานฉบับแก้ไขใหม่ ปี 2562 นิยามของโรงงานได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม จากนิยามดั้งเดิม โรงงาน ต้องมีเครื่องจักร 5 แรงม้า หรือ บุคลากรทำงาน 7 คน โดยมีการเพิ่มขีดจำกัดมากในการจัดตั้งโรงงานเป็น โรงงานจะต้องมีเครื่องจักรมากกว่า...

ปล่อยเช่าโกดังต้องทำยังไงบ้างนะ? (คู่มือการให้เช่าที่ดินอุตสาหกรรม โกดังและโรงงาน)

สำหรับทุกท่านที่กำลังมองหาวิธีการปล่อยเช่าที่ดินอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นปล่อยเช่าโกดังหรือปล่อยเช่าโรงงานอุตสาหกรรม ถือเป็นอีกหนึ่งลู่ทางในการหารายได้แบบ passive income แบบเสือนอนกิน มีเงินเข้ามาให้ใช้เรื่อย ๆ แต่ว่านะการจะปล่อยเช่าให้ได้ราคาดีๆ หรือทำให้มีคนมาเช่าได้จำเป็นต้องใช้การวางแผนและการจัดการอย่างดีเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคาให้เหมาะสม การหาผู้เช่า สำหรับบทความนี้เลยอยากนำเสนอคู่มือการเตรียมตัวผู้ปล่อยเช่าโกดังหน้าใหม่ ต้องเตรียมตัวยังไง ต้องทำอะไรบ้างถึงจะมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง! คำนวณราคาเช่าให้เหมาะสม สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจว่าคำนวณอย่างไร ลองเช็คตามลิสท์รายจ่ายที่มีในที่ดินดังกล่าวเพื่อคำนวณหาราคาที่เหมาะสม ไม่เข้าเนื้อ: ค่าจำนองที่ดิน (หากมี) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ค่าประกันทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้าง ค่าทำนุบำรุงรายปี/รายเดือน ค่าซ่อมและค่าปรับปรุงที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต่อมาเมื่อมีลิสท์รายจ่ายทั้งหมดเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำแล้ว ผู้ปล่อยเช่าโกดังหรือที่ดินควรหาข้อมูลราคาปล่อยเช่าโกดังหรือโรงงานที่มีลักษณะใกล้เคียงในบริเวณรอบ ๆ นอกจากนั้นแล้วผู้ให้เช่าควรคิดถึงสภาพของสิ่งปลูกสร้าง ลักษณะเฉพาะของที่ดิน (ติดคลอง ติดถนนใหญ่) สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และที่ตั้งของโกดังที่จะปล่อยเช่า เช่น ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม (จดทะเบีนยใน กนอ.) เขตการค้าหรือที่ดินส่วนบุคคล ปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาจะส่งผลต่อราคาในการปล่อยเช่าได้ ถ้าหากจะให้แนะนำเพิ่มเติม ผู้ให้เช่าควรศึกษาการแบ่งสีผังมือเพื่อเข้าใจเกณฑ์ราคาในการปล่อยเช่าได้เป็นอย่างดี ถ้าหากลองคิดคำนวณจากค่าใช้จ่ายและปัจจัยต่างๆแล้วยังไม่มั่นใจ ลอง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ในการปล่อยเช่าโกดังหรือประกาศขายโรงงานได้นะ สร้างแผนการจัดการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีแผนการจัดการที่ดินที่ดีย่อมลดปัญหาการปล่อยเช่า และปัญหาของผู้เช่าได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว กำหนดคนหรือเจ้าหน้าที่ให้มาดูแลคำร้องเรียนต่างๆของผู้เช่าและการติดต่อประสานงานรายวัน เช่น การติดต่อขอซ่อมบำรุงพื้นที่ในโกดัง การกำหนดวันเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ประสานงานกับผู้เช่าอย่างสม่ำเสมอจะสามารถช่วยให้ผู้เช่าพึงพอใจได้ แม้ว่าจะมีบริการการจัดการที่ดินและสินทรัพย์อุตสาหกรรมที่ท่านสามารถจ้างเข้ามาดูแลได้ แต่ค่าใช้จ่ายที่ตามมาย่อมส่งผลต่อรายได้จากการปล่อยเช่าได้นะ ลองทำด้วยทีมงานของตนเองก่อนจะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากและมีกำไรเพิ่มขึ้น จัดทำนโยบายการเช่าและร่างสัญญาเช่า...

ความแตกต่างระหว่างไฟฟ้า 3 เฟสกับไฟฟ้าเฟสเดียว

เวลานึกถึงระบบไฟฟ้าต่างๆ ที่ใช้ในปัจจุบัน แม้ว่าจะดูเผินๆเป็นเรื่องทั่วๆไปเข้าใจได้ง่าย แต่ผู้ประกอบการควรแยกความแตกต่างระหว่างไฟฟ้า 3 เฟส และไฟฟ้า 1 เฟสได้ โดยไฟฟ้า 3เฟส นั้นเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่นภายในโกดังสินค้าหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้กำลังไฟมากและมีความซับซ้อนในเชิงระบบมากกว่า ส่วนไฟฟ้า 1 เฟสนั้นพบได้ทั่วไปตามบ้านเรือน จริงๆแล้วยังมีความแตกต่างในเชิงๆต่างๆอีกด้วย บทความนี้เลยอยากนำเสนอและเปรียบเทียบความเหมือนความต่างระหว่าง ไฟฟ้า 3 เฟส และ 1 เฟส แบบเข้าใจง่ายๆ! ระบบไฟฟ้า 1 เฟสคืออะไร? ระบบไฟฟ้า 1 เฟส คือระบบไฟมาตรฐานที่ใช้ทั่วไปในบ้านเรือน สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปเช่น หลอดไฟ แอร์ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยระบบไฟ 1 เฟส จะประกอบไปด้วยสายไฟ 2 สายและมีแรงดันอยู่ที่ 220 โวลต์ โดยมีสายไฟเดิน 1 เส้น สายเส้นศูนย์อีก 1 สาย โดยในปัจจุบันมีการเพิ่มสายดินเพื่อป้องกันเหตุไฟฟ้ารั่ว ระบบไฟฟ้า 3 เฟสคืออะไร? สำหรับไฟฟ้า 3 เฟสนั้น ระบบจะมีความซับซ้อนมากกว่า โดยมีสายไฟทั้งหมด...

เคล็ดลับที่ควรรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าภายในโรงงานและโกดังสินค้าในประเทศไทย

ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดำเนินงานของโรงงานอุตสาหกรรมและโกดังสินค้าในประเทศไทย ผู้ประกอบการมีความจำเป็นในการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นในการใช้ในอุปกรณ์การทำงาน เครื่องจักรอุตสาหกรรม หรือเครื่องมือใช้สอยต่างๆในโรงงาน ดังนั้นแล้วการเข้าใจหลักการพื้นฐานของไฟฟ้าเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรมีความรู้ความเข้าใจ โดยบทความนี้จะแชร์ เกร็ดความรู้พื้นฐาน หลักการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทย วิธีการขอเพิ่มไฟฟ้าให้กับโรงงานและรายละเอียดอื่นๆที่ควรรู้! 1. การอ่านบิลค่าไฟฟ้าโรงงาน โกดัง เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า สิ่งที่สำคัญคือเข้าใจคำศัพท์พื้นฐานต่อไปนี้: หน่วยแรงดันไฟฟ้า โวลต์: แรงดันไฟฟ้าบ่งชี้ถึงแรงดันหรือความต่างศักย์ระหว่างจุดสองจุดในวงจรไฟฟ้า และมักจะถูกวัดเป็นโวลต์ (V) หน่วยกระแสไฟฟ้า แอมแปร์: แอมแปร์หรือกระแสไฟฟ้าเป็นอัตราที่กระแสไฟฟ้าถูกนำไปไหลในวงจร แสดงถึงปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านไปที่จุดใดจุดหนึ่งในวงจร และวัดเป็นแอมแปร์ (A) อัตราการถ่ายโอนพลังงาน กิโลวัตต์ (kW): เป็นหน่วยของพลังงาน แสดงถึงอัตราการทำงานหรือการถ่ายโอนพลังงานในวงจรไฟฟ้า การคำณวนแอมป์ = วัตต์ / โวลต์: สามารถคำนวณแอมป์ได้โดยการหารพลังงานในหน่วยวัตต์ด้วยแรงดันไฟฟ้า การคำณวนวัตต์ = แอมป์ x โวลต์: สามารถคำนวณพลังงานในหน่วยวัตต์ได้โดยการคูณแอมป์กับแรงดันไฟฟ้า พลังงานจริง: พลังงานจริงคือผลคูณของแรงดันไฟฟ้ากับแอมป์และวัดเป็นกิโลวัตต์ (kW) แสดงถึงพลังงานจริงที่ได้รับการใช้หรือนำไปใช้งานจากอุปกรณ์ไฟฟ้า พลังงานสมมาตร (kVA): พลังงานสมมาตรคือผลคูณของแรงดันไฟฟ้ากับแอมป์ในสภาวะที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและวัดเป็นกิโลวอลต์แอมป์ (kVA) ปัจจัยกำลัง: ปัจจัยกำลังเป็นการวัดความมีประสิทธิภาพในการส่งถ่ายพลังงานในวงจรไฟฟ้า แสดงถึงอัตราส่วนของพลังงานจริง (kW) ต่อพลังงานสมมาตร (kVA) ปัจจัยกำลังเท่ากับ 1...

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI คืออะไร?)

เมื่อโลกเริ่มฟื้นฟูจากวิกฤติโรคระบาด เหล่านักลงทุนทั่วโลกย่อมเริ่มกลับมามองหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทยอีกครั้ง ทั้งนี้การลงทุนเพื่อธุรกิจในประเทศไทยเหล่านักลงทุนต่างประเทศและผู้ประกอบการไทยควรรู้จัก คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กระบวนการสมัครและสิทธิประโยชน์ของโครงการ ก่อนที่จะเริ่มการรับแหล่งเงินทุนในระดับนานาชาติ บทความนี้ได้สรุปสาระสำคัญแบบรวบรัดและเข้าใจง่ายสำหรับทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) คือใคร? และเป้าหมายของ BOI คืออะไร? คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทยคือหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบการสนับสนุนการลงทุนของไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภารกิจของ BOI คือการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อก้าวข้ามสภาะวะกับดักรายได้ปานกลางและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ซึ่ง BOI เป็นผู้ส่งเสริมและดูแลสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในประเทศไทยให้มีการแข่งขันและความน่าดึงดูดนักลงทุนจากทั้งในและนอกประเทศไทย หนึ่งในมาตรการของ BOI เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศคือการสร้างมาตรการจูงใจเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติผ่านการสมัครนักลงทุนเข้าร่วมในมาตรการส่งเสริมการลงทุนผ่านการให้สิทธิประโยชน์ในการทำธุรกิจอย่าง การยกเว้นภาษีหรือโอกาสทางธุรกิจ สิทธิประโยชน์เพื่อการส่งเสริมการลงทุนมีอะไรบ้าง? ประเทศไทยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นความอุดมสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติหรือความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจ อย่างเช่นในภาคกลางของประเทศไทยที่มีความพร้อมและโดดเด่นในด้าน โครงสร้างและการดำเนินงานระดับอุตสาหกรรมและเหล่าแรงงานที่มีทักษะดี กรุงเทพฯเองก็เป็นแหล่งรวมธุรกิจ โรงงานอุตสาหกรรมและโกดังสินค้า ที่มีความพร้อมและเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุน ทั้งนี้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนนั้นสามารถแบ่งได้ ดังนี้: สิทธิประโยชน์ทางภาษี คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย ได้สร้างมาตรการส่งเสริมการลงทุนผ่านการให้สิทธิประโยชน์ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล นานถึง 8 ปี โดยขึ้นกับประเภทกิจการและเงื่อนไขในการยื่นคำขอ นอกจากนั้นแล้วสำหรับนักลงทุนที่ได้มีการดำเนินกิจการหรือลงทุนภายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจะได้การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงถึง 50% ต่อจากการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล อีก 5 ปี รวมทั้งหมดแล้ว BOI มีการมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีนานสูงสุดถึง 13 ปี นอกเหนือจากการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้ว ทางผู้ประกอบการและนักลงทุนยังสามารถยื่นขอมาตรการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอากรขาเข้าวัตถุดิบผลิตเพื่อการส่งออก โดยเป็นการละเว้นค่าอากรนำเข้าเครื่องจักรที่มีความจำเป็นต่อประกอบกิจการและการละเว้นค่าอากรวัตถุดิบผลิตที่จำเป็นต่อการวิจัยและพัฒนาในกิจการ...

เลือกทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมในอุดมคติของคุณกับเรา ใน 4 ขั้นตอน

เราเป็นบริาัทให้เช่าโรงงานหรือคลังสินค้าที่ให้คำแนะนำที่ดีที่สุดในธุรกิจระดับเดียวกัน เราช่วยเหลือบุคคล ธุรกิจ และสถาบันในการตัดสินใจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ดียิ่งขึ้น เราจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการเลือกทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมในอุดมคติของคุณกับ เรา ใน 4 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1: แจ้งคุณสมบัติที่คุณต้องการให้เราทราบ ส่งความต้องการของคุณมาให้เรา ทีมงานของเราจะวิเคราะห์และเลือกรายการคุณสมบัติทางอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับคุณที่สุด1. บริษัทของคุณทำอะไร (การผลิตหรือการประกอบหรือการจัดเก็บ)? สินค้ามีอะไรบ้าง?2. กิจกรรมทางธุรกิจของคุณจำเป็นต้องมี ใบอนุญาตโรงงาน (ใช้เครื่องจักรมากกว่า 50 แรงม้า หรือมากกว่า 50 คนในการดำเนินงาน) หรือไม่?3. กิจกรรมทางธุรกิจของคุณก่อให้เกิดมลพิษใด ๆ ดังต่อไปนี้ (เสียง กลิ่น ฝุ่น น้ำเสีย) หรือไม่? ถ้าใช่ โปรดระบุ4. คุณกำลังมองหาสถานที่หรือพื้นที่ใด?5. ขนาดพื้นที่โกดัง/โรงงานเป็นตารางเมตร (ตร.ม.) ขนาดเท่าไรที่คุณต้องการ?6. งบประมาณการเช่าของคุณต่อเดือนหรืองบประมาณการซื้อที่จะซื้อคือเท่าไร?7.ต้องใช้โกดัง/โรงงานเมื่อไหร่?8. ชื่อบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยหรือบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ9. เว็บไซต์บริษัทของคุณคืออะไร? ขั้นตอนที่ 2: คัดเลือกรายการอสังหาริมทรัพย์ที่คุณสนใจ เมื่อเราทราบข้อกำหนดของโกดังหรือโรงงานที่คุณต้องการแล้ว ทีมงานของเราจะส่งลิงก์เว็บไซต์ของรายการที่เหมาะสมไปให้ เพื่อคุณได้เลือกและพิจารณารายการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ เราขอแนะนำให้คุณเลือกรายการโกดังหรือโรงงานได้มากเท่าที่คุณต้องการ (อย่างน้อย 4 แห่ง) จากนั้น ทีมงานของเราจะตรวจสอบรายการที่คุณเลือกว่ารายการทั้งหมดนั้น ว่างหรือไม่ ก่อนทุกครั้ง เนื่องจากแต่ละรายการอาจมีความพร้อมที่แตกต่างกันในแต่ละวัน และหลังจากนั้น เราจะนัดหมายเพื่อขอเยี่ยมชมโกดังหรือโรงงานที่มีอยู่ทั้งหมดภายในวันเดียวเลย...

9 ค่าใช้จ่ายหลักที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าในประเทศไทย

กำลังมองหาพื้นที่โกดังสินค้าหรือโรงงานให้เช่าในประเทศไทยอยู่รึเปล่า? จริงๆแล้วมีอีกหลายๆคนเหมือนคุณที่กำลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจของตนเองอยู่นะ แต่ทว่าการเช่าพื้นที่โกดังสินค้าหรือโรงงานนั้นเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญหรือไม่ก็เป็นก้าวที่สำคัญที่สุดเลยทีเดียวของการทำธุรกิจหลากหลายประเภท ดังนั้นแล้วผู้ประกอบการควรมีความรู้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆที่เกิดขึ้นจากการเช่าโกดังสินค้า ถ้าอย่างนั้นแล้ว ทำไมเช่าถึงดีกว่าซื้อละ? จริงๆแล้วในประเทศไทยนั้นการเช่าโกดังสินค้าหรือโรงงานจะมี สิทธิประโยชน์และข้อดีต่างๆ ที่มากับการเช่าโกดังสินค้า เช่น การลดหย่อน ภาษี, ประสิทธิภาพด้านเวลา ฯลฯ นี่คือค่าใช้จ่าย 9 ข้อที่คุณควรทราบ:1. ราคาเช่า2. ค่ามัดจำการเช่า3. การชำระเงินล่วงหน้า4. เงินภาษี5. น้ำและไฟฟ้า6. ค่าบริการและค่าส่วนกลาง7. การประกันภัยทรัพย์สินและการประกันภัยผลิตภัณฑ์8. ค่าปรับปรุงและค่าซ่อมบำรุง9. ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 1. ค่าเช่าพื้นที่โกดัง ค่าใช้จ่ายหลักอันแรกเลยคือ ค่าเช่าพื้นที่โกดังสินค้าหรือโรงงานนั้นเอง โดยผู้ให้เช่าจะคิดค่าเช่าและเรียกเก็บจากผู้เช่าโดยคำนวณจากการคิดราคา หน่วยตารางเมตรต่อเดือน โดยไม่รวมกับค่าใช้จ่ายส่วน ภาษีค่าบริการและค่าไฟค่าน้ำ ข้อสำคัญที่ควรรู้อีกอย่างหนึ่งคือ ราคาค่าเช่าพื้นที่นั้นจะแตกต่างออกไปตาม รูปแบบและส่วนเสริมต่างๆของโกดังสินค้าที่เช่ารวมไปถึงตำแหน่งที่ตั้งของโกดังเองก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาค่าเช่าโกดังสินค้า การเช่าโกดังสินค้าหรือโรงงานในพื้นที่อุตสาหกรรมจะค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าพื้นที่นอกเมืองหรือนอกนิคมอุตสาหกรรม โดยการจัดสรรพื้นที่ต่างๆนั้นจะเป็นการอิงข้อมูลจาก การแบ่งโซนสีผังเมืองของไทยโดยผู้ประกอบการควรเจรจากับผู้ให้เช่าที่ดินทุกครั้งเพื่อต่อรองราคาค่าเช่าที่ต้องการและเหมาะสมตามข้อตกลงสัญญาการเช่า 2. ค่ามัดจำการเช่า ค่ามัดจำเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการเช่าโกดังสินค้า โดยค่ามัดจำเป็นค่าใช้จ่ายรอบเดียวต่อสัญญาการเช่า โดยค่ามัดจำนั้นจะมีมูลค่าประมาณ ราคาค่าเช่ารวมกัน 2-5 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วค่ามัดจำจะมีมูลค่าอยู่ที่ เงินค่าเช่า 3 เดือน ทั้งนี้มูลค่าเงินมัดจำนั้นสามารถต่อรองกับทางผู้ให้เช่าได้ก่อนเริ่มเซ็นสัญญาการเช่าและเมื่อกำหนดสัญญาเช่านั้นสิ้นสุดลงแล้ว ผู้ให้เช่าจะคืนเงินค่ามัดจำให้กับผู้เช่าหากผู้เช่าไม่ได้มีการละเมิดสัญญาหรือทำผิดข้อตกลงใดๆ ที่ระบุไว้ในสัญญาการเช่า ( ถ้าหากมีการละเมิดสัญญาเกิดขึ้น, ทางผู้เช่าสามารถเจรจาเพื่อขอคืนเงินค่ามัดจำได้ โดยจะมีการสอบสวนเกิดขึ้นและจะมีการละเว้นเป็นเพียงบางกรณี ไปเท่านั้น) ...

ผังเมืองประเทศไทยและการแบ่งเขตสี

เมื่อคุณเริ่มวางแผนการเช่าโกดังสินค้าหรือโรงงานในประเทศไทย การเลือกที่ดินและพื้นที่เป็นหนึ่งในการตัดสินใจสำคัญที่สุดในการดำเนินงาน แต่ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ดินหรือตำแหน่งที่เราเลือกเหมาะกับการตั้งโกดังสินค้าหรือโรงงาน? วันนี้มาทำความรู้จักหลักการการวางผังเมืองและการแบ่งสีโซนที่ดินในประเทศไทย โดยเมื่อรู้แล้วคุณจะมีข้อได้เปรียบและโอกาสในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น  1. การวางผังเมืองและการแบ่งโซนสีที่ดินในประเทศไทยคืออะไร ก่อนอื่นเลย การวางผังเมืองเป็นหนึ่งในรากฐานของการบริหารพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลและพัฒนาโดยรัฐบาล ผ่านหน่วยงาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย โดยผังเมืองนั้นจะเป็นจุดรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์ต่างๆ เช่น แผนที่เมือง การจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง รวมไปถึงนโยบายที่กำกับ ควบคุม และดูแลการใช้ที่ดินในพื้นที่ต่าง ๆ อันเป็นข้อกฎหมายสำหรับกรุงเทพฯและประเทศไทย การวางผังเมืองนี้เป็นเสมือนการวางโครงสร้างการพัฒนาเมืองเพื่อการพัฒนาที่ดินในอนาคตอีกด้วย เช่น การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ การวางเส้นทางขนส่งสาธารณะใหม่ การดูแลผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ นอกเหนือจากนั้นทางรัฐบาลไทยเองได้จัดทำเครื่องมือการแบ่งโซนที่ดินด้วยสีต่างๆ เพื่อเป็นการแบ่งพื้นที่เพื่อการใช้สอยอย่างเหมาะสมและเป็นเครื่องมือสำหรับเหล่านักประกอบการและนักธุรกิจได้เข้าใจถึงที่ดินของตนเองเพื่อการตัดสินใจและการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามกฎระเบียบของประเทศไทย 2. ผังเมืองประเทศไทยถูกแบ่งโซนเป็นอย่างไรบ้าง? ในการแบ่งโซนสีที่ดินในประเทศไทยนั้น ทางรัฐบาลไทยได้จำแนกโซนการใช้สอยที่ดินไว้ทั้งหมด 13 สี โดยมีความหมายแตกต่างกันไป ดังนี้: เขตสีม่วง - ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า เขตสีม่วงอ่อน - ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมเฉพาะกิจ          เขตสีเม็ดมะปราง - ที่ดินประเภทคลังสินค้า เขตสีแดง - ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม เขตสีน้ำตาล - ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก เขตสีส้ม - ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง เขตสีเหลือง - ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เขตสีน้ำเงิน -...

Compare listings

เปรียบเทียบ