กำลังมองหาพื้นที่โกดังสินค้าหรือโรงงานให้เช่าในประเทศไทยอยู่รึเปล่า? จริงๆแล้วมีอีกหลายๆคนเหมือนคุณที่กำลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจของตนเองอยู่นะ แต่ทว่าการเช่าพื้นที่โกดังสินค้าหรือโรงงานนั้นเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญหรือไม่ก็เป็นก้าวที่สำคัญที่สุดเลยทีเดียวของการทำธุรกิจหลากหลายประเภท ดังนั้นแล้วผู้ประกอบการควรมีความรู้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆที่เกิดขึ้นจากการเช่าโกดังสินค้า ถ้าอย่างนั้นแล้ว ทำไมเช่าถึงดีกว่าซื้อละ? จริงๆแล้วในประเทศไทยนั้นการเช่าโกดังสินค้าหรือโรงงานจะมี สิทธิประโยชน์และข้อดีต่างๆ ที่มากับการเช่าโกดังสินค้า เช่น การลดหย่อน ภาษี, ประสิทธิภาพด้านเวลา ฯลฯ นี่คือค่าใช้จ่าย 9 ข้อที่คุณควรทราบ:1. ราคาเช่า2. ค่ามัดจำการเช่า3. การชำระเงินล่วงหน้า4. เงินภาษี5. น้ำและไฟฟ้า6. ค่าบริการและค่าส่วนกลาง7. การประกันภัยทรัพย์สินและการประกันภัยผลิตภัณฑ์8. ค่าปรับปรุงและค่าซ่อมบำรุง9. ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 1. ค่าเช่าพื้นที่โกดัง ค่าใช้จ่ายหลักอันแรกเลยคือ ค่าเช่าพื้นที่โกดังสินค้าหรือโรงงานนั้นเอง โดยผู้ให้เช่าจะคิดค่าเช่าและเรียกเก็บจากผู้เช่าโดยคำนวณจากการคิดราคา หน่วยตารางเมตรต่อเดือน โดยไม่รวมกับค่าใช้จ่ายส่วน ภาษีค่าบริการและค่าไฟค่าน้ำ ข้อสำคัญที่ควรรู้อีกอย่างหนึ่งคือ ราคาค่าเช่าพื้นที่นั้นจะแตกต่างออกไปตาม รูปแบบและส่วนเสริมต่างๆของโกดังสินค้าที่เช่ารวมไปถึงตำแหน่งที่ตั้งของโกดังเองก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาค่าเช่าโกดังสินค้า การเช่าโกดังสินค้าหรือโรงงานในพื้นที่อุตสาหกรรมจะค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าพื้นที่นอกเมืองหรือนอกนิคมอุตสาหกรรม โดยการจัดสรรพื้นที่ต่างๆนั้นจะเป็นการอิงข้อมูลจาก การแบ่งโซนสีผังเมืองของไทยโดยผู้ประกอบการควรเจรจากับผู้ให้เช่าที่ดินทุกครั้งเพื่อต่อรองราคาค่าเช่าที่ต้องการและเหมาะสมตามข้อตกลงสัญญาการเช่า 2. ค่ามัดจำการเช่า ค่ามัดจำเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการเช่าโกดังสินค้า โดยค่ามัดจำเป็นค่าใช้จ่ายรอบเดียวต่อสัญญาการเช่า โดยค่ามัดจำนั้นจะมีมูลค่าประมาณ ราคาค่าเช่ารวมกัน 2-5 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วค่ามัดจำจะมีมูลค่าอยู่ที่ เงินค่าเช่า 3 เดือน ทั้งนี้มูลค่าเงินมัดจำนั้นสามารถต่อรองกับทางผู้ให้เช่าได้ก่อนเริ่มเซ็นสัญญาการเช่าและเมื่อกำหนดสัญญาเช่านั้นสิ้นสุดลงแล้ว ผู้ให้เช่าจะคืนเงินค่ามัดจำให้กับผู้เช่าหากผู้เช่าไม่ได้มีการละเมิดสัญญาหรือทำผิดข้อตกลงใดๆ ที่ระบุไว้ในสัญญาการเช่า ( ถ้าหากมีการละเมิดสัญญาเกิดขึ้น, ทางผู้เช่าสามารถเจรจาเพื่อขอคืนเงินค่ามัดจำได้ โดยจะมีการสอบสวนเกิดขึ้นและจะมีการละเว้นเป็นเพียงบางกรณี ไปเท่านั้น) ...